ออมเงินตั้งแต่ยังเรียน ช่วยสร้างพื้นฐานการเงินที่มั่นคง
นักศึกษาหลายคนอาจคิดว่า “ยังไม่มีรายได้ประจำ จะออมเงินได้อย่างไร” แต่อันที่จริงการออมเงินไม่จำเป็นต้องเริ่มเมื่อมีงานทำ การสร้างนิสัยออมเงินตั้งแต่ยังเรียน เป็นการฝึกวินัยทางการเงินที่สำคัญต่ออนาคต และยังช่วยให้สามารถใช้เงินได้อย่างมีเป้าหมาย ไม่หมดไปกับของฟุ่มเฟือยโดยไม่รู้ตัว
จากข้อมูลทั่วไป พบว่านักศึกษาที่ทำพาร์ทไทม์มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 6,000–10,000 บาท/เดือน โดยค่าจ้างเฉลี่ยอยู่ที่ 45–80 บาท/ชั่วโมง เช่น งานในร้านกาแฟ ห้าง หรือร้านอาหาร ซึ่งเพียงพอที่จะจัดสรรสำหรับการออมได้ หากมีแผนและวินัยทางการเงินที่เหมาะสม
เทคนิคออมเงินง่ายๆ สำหรับนักศึกษา
1. ตั้งเป้าหมายที่ทำได้
เช่น ออมวันละ 20 บาท หรือเก็บให้ได้ 1,000 บาทภายใน 2 เดือน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยเพิ่มแรงจูงใจและติดตามผลได้ง่าย
2. แบ่งเงินรายเดือนเป็นสัดส่วน
หากได้รับเงินเดือนละ 6,000–10,000 บาท ควรแบ่งเป็น:
- 60% ค่าใช้จ่ายจำเป็น (อาหาร, ค่าเดินทาง)
- 20% เงินออม เช่น วันละ 40–50 บาท
- 20% เพื่อความบันเทิงหรือสิ่งของส่วนตัว
ตัวอย่าง:
- รายได้ 6,000 บาท: ออม 1,200 บาท/เดือน (วันละ 40 บาท)
- รายได้ 10,000 บาท: ออม 2,000 บาท/เดือน (วันละ 67 บาท)
3. ใช้แอปจดรายรับ-รายจ่าย
แอปอย่าง Money Manager, Wallet หรือ Spendee จะช่วยให้เห็นภาพรวมการใช้เงิน และช่วยคุมงบได้ดีขึ้น
4. ใช้บัญชีแยกสำหรับออมเงิน
เปิดบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง เช่น e-Saving หรือ Kept by Krungsri เพื่อเก็บเงินที่ไม่ควรใช้ปะปนกับค่าใช้จ่ายประจำวัน
5. หลีกเลี่ยงของฟุ่มเฟือย
ก่อนซื้อสิ่งของ ลองถามตัวเองว่า “ของชิ้นนี้จำเป็นไหม?” “จะใช้กี่ครั้ง?” เพื่อฝึกวิเคราะห์ความคุ้มค่า
6. รับงานพิเศษเสริมรายได้
หากสามารถทำงานพิเศษ เช่น เขียนบทความ ขายของออนไลน์ หรือติวหนังสือ ควรแยกรายได้ส่วนนั้นไว้เป็นเงินออมโดยเฉพาะ เช่น การติวภาษาอังกฤษอาจมีรายได้เฉลี่ย 200–300 บาท/ชั่วโมง หากทำสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง ก็สามารถออมเพิ่มได้อีก 3,200–4,800 บาท/เดือน
สรุป
แม้จะยังเรียนอยู่ นักศึกษาก็สามารถเริ่มต้นออมเงินได้ง่ายๆ ด้วยการวางแผนรายรับรายจ่าย ใช้บัญชีเงินฝากให้เหมาะสม และมีเป้าหมายที่เป็นไปได้ การเริ่มต้นเล็กๆ จะช่วยให้คุณสร้างนิสัยการเงินที่ดีและพร้อมรับมือกับชีวิตหลังเรียนจบได้อย่างมั่นใจ
บทความแนะนำ